Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Task Manager กับการตรวจการใช้ CPU ของ Processes (Windows)

เคยมั้ยครับ กับการปัดฝุ่นตามซอกแบบเดิมๆ วันนี้ กรไดเร๊ก ขอเสนอ
ไม่ใช่ครับเข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ

คิดว่าหลายๆท่านคงมีคอมพิวเตอร์ใช้กันแล้ว เคยใช้ไปสักพัก แล้วเกิดรู้สึกว่า มันอืดๆ
ช้าๆ ค้างๆ ผิดปกติไปจากเดิมจากที่เคยเร็วปร๊วดปร๊าดผิดจากตอนที่ลง windows เสร็จใหม่ๆ

รอบนี้ผมจะเขียนวิธีการตรวจดูความผิดปกติของ Process ว่าใช้ CPU เกินไปหรือเปล่า ซึ่งเกิดจากการที่เราลงโปรแกรมหรือเปิดโปรแกรม

อันดับแรก ส่วนเราที่เราจะใช้ตรวจสอบก็คือ Task Manager นั่นเองครับ ชาวบ้านเขารู้กันทั่วว่ากด
Ctrl + Alt + Delete ครับ กดปั๊บ เข้า Task Manager จะได้หน้าต่าง ซึ่งผมจะอธิบายรายละเอียด
ทีละ Tab แบบคร่าวๆพอเข้าใจ ตามนี้นะครับ

Tab Applications: แสดงรายการของโปรแกรมที่และสถานการทำงานของโปรแกรมที่เราเปิดอยู่บน Windows ขณะนั้น

Pcoresses: แสดงรายการ Processes ซึ่งประกอบไปด้วย
Image Name: ชื่อ Process
User Name: ผู้ที่ใช้ Process นั้น
CPU: ทรัพยากรณ์ ของ CPU ที่ Process นั้นใช้ โดยคิดเป็นร้อยละ(%)
 Memory: ความจำที่ใช้
Description: คำอธิบาย Process

Services: แสดงรายการบริการที่มีบน ระบบปฏิบัติการของคุณ ซึ่งสามารถกับหนด ทำงานหรือหยุดทำงานได้



Performance: แสดงกราฟการใช้ ตัวประมวลผล(CPU)คิดเป็น% และหน่วยความจำ(RAM)แสดงเป็นจำนวน ในขณะนั้น(live)

Networking: แสดงกราฟการทำงานการเชื่อมต่อของการเชื่อมต่อที่ใช้ในขณะนั้น โดยแสดงเป็น % ของ Adapter ที่ทำงานได้สูงสุด

Users: ยู เซ่อ แปลว่า คุณเซ่อ ไม่ใช่ครับ แสดงชื่อผู้ใช้งานที่ logon บนระบบปฏิบัติการ







ข้อมูลดังกล่าวก็คือคำอธิบายเกี่ยวกับ Task Manager นะครับ
ต่อไปเรามาดูวิธีตรวจสอบ ว่า Process ไหน ทำงานมากเกินไปหรือผิดปกติรึเปล่าเราจะใช้ตรงหน้าต่าง Tab Process ในการสังเกตุ ตามภาพนะครับ
Task Manager > Processes
หากต้องการดูว่า Process ไหน ใช้ CPU หนักๆที่สุดให้คลิกที่ คอลั่ม CPU  ตามภาพที่มีลูกศรชี้ลงเลยครับมันจะจัดเรียงรายการโดยที่แสดงรายการที่ Process ใช้ CPU มาก ไปหา น้อย ตามลำดับ
จากภาพจะเห็นได้ว่า ลำดับการใช้ CPU ที่มากที่สุดคือ
--System Idle Process (CPU=73)
Process นี้เป็น Process ยืนฐานของระบบปฏิบัติการ หรือวิธีคิดง่ายๆชาวบ้านๆก็คือทรัพย์ยากรณ์ที่เหลือให้ใช้ได้
ตรงนี้ถ้าค่ายิ่งมากเครื่องยิ่งทำงานน้อยครับ ย้ำนะครับ เฉพาะ Process นี้เท่านั้นนะครับ(System Idle Process)

--WmiPrvSE.exe (CPU25)
Process เกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่าย อันนี้ก็ ไม่น่าสงสัยอะไรเป็น Process ของระบบ ทำงานโดยใช้ทรัพยากรณ์ 25% แป๊บเดียวก็ลดลง

คร่าวๆก็คือประมาณนี้ แต่ถ้ามี Process ไหนไม่คุ้นหน้าคุ้นตาหรือว่า เราไม่ได้เปิดอะไรเลย และคิดว่าไม่มีอะไรทำงานอยู่ แล้วมาดูตรงนี้ แล้วพบว่ามี Process บางตัว ทำงานหนักผิดปกติ โดยที่ดูตรงคอลั่ม CPU ทำงานเกิน 80-90% ขึ้นไป ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานผิดสังเกตุ ให้ตรวจสอบว่า Process นั้นมาจากไหน และปิด Process นั้นด้วยการคลิกที่ End Process หรือกด Delete แล้วไปแก้ไขที่ตัวโปรแกรมนั้นๆ ด้วยวิธีการลบทิ้งหรือลองติดตั้งอีกครั้ง

ผลเสียจากการที่มี Process ทำงานหนักๆต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
จะทำให้ CPU หรืออุปกรณ์เสียหายหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น เพราะ Process ทำงานหนักก็เท่ากับ CPU ทำงานหนักตามไปด้วย
อาการที่สังเกตุได้ก็คือ
คอมช้า,โปรแกรมเปิดช้า,เล่นแล้วสะดุดๆ,อุณหภูมิสูง,ร้อนง่าย และจวบจนไปถึงคอมแฮงค์

การที่ มีบางอย่างประมวลผลหนักเกินผิดปกติ นั่นอาจจะเกิดจาก
การติดตั้งโปรแกรมไม่ถูกต้อง(ให้เราติดนอนหรือแทยงมุมแทน), การเปิดใช้งานโปรแกรมหลายๆโปรแกรมในเวลาเดียวกัน(รวมไปถึงพวก Update ต่างๆ), ของแถมจากการติดตั้งโปรแกรมปกติ หรือ
ไวรัส(ก็คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีคนเขียนขึ้นมาเพื่อก่อกวนระบบ โดยที่ไม่มีประโยชน์กับผู้ใช้เลย)


บทความทุกตัวอักษรในบล็อก Second write นี้ เป็นตัวอักษรจากคีย์บอร์ดที่ป้อนผ่านนิ้วมือของเจ้าของ บล็อค ทีละตัวๆ หาก บังเอิญมีการนำเสนอไปแล้ว ขอให้ผู้อ่านสามารถแจ้งทางคอมเม้นท์ได้เลยจ้า...... หรือถ้าก๊อปปี้ไป เครดิตมาที่บล็อกนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนนำเสนอนิ่งดีๆต่อไปด้วยนะครับ ขอบคุณครับ





วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เน็ต ADSL ทดสอบความเร็วจาก Router สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน


เริ่มต้นการเขียน blog รอบที่ 2 ของชีวิต
เรื่องแรกที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอ่าน ทุกๆคนและเหมาะสมกับยุคสมัยแห่งโลกการสื่อสารที่ทุกๆคนล้วนใช้กันทั่วโลก
นั่นก็คือเรื่องความเร็วของการเชื่อมต่อ internet ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อประเภท ADSL หรือสายโทรศัพท์บ้าน
ธรรมดาๆทั่วๆไปนะครับ

โดยปกติแล้ว ผู้ใช้ internet ทุกท่านเวลาจะติดตั้ง internet จะต้องไปติดต่อผู้ให้บริการตามแต่จะใช้บริการของหน่วยไหนเช่น Truemove, 3BB หรือ TOT ก็แล้วแต่ ก็จะมีแพ็คเกจความเร็วให้เราเลือกใช้

ในรอบนี้ผมจะกล่าวถึง "ความเร็ว ของ การเชื่อมต่อ" ที่เราใช้จริงๆ นั่นก็คือ
อัตรา รับข้อมูลและ ส่งข้อมูล (Download Speed/Upload Speed)
จากประสบการณ์จริงของผม พบว่า ผู้ใช้ส่วนมาก ไม่ค่อยจะตรวจสอบถึงบริการที่เราได้รับแบบจริงๆจังๆ ซึ่งนั่นไม่คุ้มได้เสียเอาเสียเลยกับการที่เราเลือกที่จะใช้บริการ

ดังนั้นผมจึงมาเสนอแนะวิธีตรวจสอบ"ความเร็ว"อันเป็นภูมิคุ้มกันจากปัญหาและหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดๆกันก่อนนะครับ
ในที่นี้ผมจะยกตัวอย่าง สมมุติว่าเราใช้บริการ True High Speed Internet ADSL เลือกความเร็วที่ใช้บริการคือ 7Mb/1Mb

เอาล่ะเรามาดูว่าความเร็วของเรานั้น จริงหรือเท็จเพียงไร โดยปกติแล้วผู้ใช้งานทั่วๆไปจะวัดความเร็วโดยเข้าเช็คตามเว็บบน internet ทั่วไปอย่างเช่น
http://www.speedtest.net แล้วก็วัดและดูผลบนหน้าจอ ซึ่งนั่นก็วัดได้ครับ แต่ไม่แม่นยำเท่าไหร่นักเนื่องจากเงื่อนไขของความเร็วที่เราวัดได้บน internet
นั่นหมายถึงความเร็วของข้อมูลที่วิ่ง ระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเรา กับ host ปลายทางที่อยู่บน internet ซึ่งถ้าเน็ตของเรา 7Mb ถ้าเราวัดจากเว็บ speedtest.net การที่จะวัดให้ได้ผล
แม่นยำ จะต้องเช็คให้แน่ใจว่า ในเครือข่ายของเรา มีเครื่องเราใช้เพียงเครื่องเดียว และไม่มีการดาวโหลด-อัพโหลดใดๆทำงานอยู่ในขณะนั้น จึงจะเห็นผลจาก Web browser เพียงอันเดียว
เพราะทำไมถึงต้องเปิดไว้เครื่องเดียว เพราะว่าหากมีการเชื่อมต่อเครื่องอื่นๆหรือมีการใช้ดาวโหลดอื่นๆ ความเร็วจะถูกเฉลี่ยหรือแบ่งไปใช้ ทำให้เหลือความเร็วที่เราวัดได้ไม่เต็มที่
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การที่เราวัดทดสอบความเร็วบน Web Browser คือการวัดความเร็วที่เราสามารถใช้ได้ในขณะนั้น ไม่ใช่ความเร็วของ DSL ที่เราใช้บริการ ดูจากรูปภาพเครือข่ายแล้วพิจารณาดูนะครับ ถ้าคอมเราคือ client1 และเปิด เช็คบน internet กับ เข้าไปเช็คใน Router (เส้นสีแดง)


การใช้ Web Browser เปิด เว็บตรวจความเร็ว จะไม่ได้ความเร็วที่แม่นยำเพราะว่า เกิดจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ หรือโปรแกรมอื่นๆที่เปิดรับ-ส่งข้อมูลอยู่ในขณะนั้น

วิธีเด็ดที่ผมจะเสนอใน blog นี้ก็คือวิธีตรวจสอบความเร็ว ของ ADSL โดยที่ไม่ต้องไปไล่ให้คนอื่นหยุดเล่นหรือปิดโปรแกรมใช้งานให้ยุ่งยาก เช็คเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นก็คือ
เข้าไปเช็คที่ Router คือ Router ตั้งอยู่มุมไหนของห้อง ก็ลุกขึ้นไปเดินเช็คเลยครับเอาไม้บรรทัดวัด... อ่ะม่ายช่ายย อันี้มุกนะครับ
วิธีเข้าไปเช็คที่ router ก็คือ เปิด web browser ขึ้นมาแล้วพิมพ์ในช่อง Address(ช่องที่เราพิมพ์ชื่อเว็บทั่วๆไปนั่นแหละ) ใส่ไป 192.168.1.1 แล้วกด Enter
 หรือ ไปที่ Start Menu -> Runs หรือกดปุ่ม บนคีย์บอร์ด "Windows Key + R" แล้วพิมพ์ 192.168.1.1 แล้วกด Enter
จะมีหน้าต่างให้ใส่ ผู้ใช้ และรหัสผ่าน หรือใส่รหัสผ่านอย่างเดียว ก็ใส่ไปครับ

รหัสผ่านตรงนี้ Admin หรือผู้ดูแลจะรู้ครับ หรือถ้าไม่รู้ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการครับ









เมื่อเข้ามาใน router แล้ว ให้ไปที่หน้า Status ซึ่งผมยกตัวอย่างจาก router ยี่ห้อ ZyXel P-660 ก็จะแสดงสถานะการทำงาน version firmware ของ router ตามภาพ


ให้เราดูตรงส่วนของ Interface Status ตรงช่อง DSL คือแสดงสถานะของการเชื่อมต่อ ของ DSL ในขณะนั้น และส่วนของคอลั่ม Rate นั่นหมายถึงอัตราการรับ-ส่งข้อมูลบนสาย DSL
หรือสายโทรศัพท์ที่เสียบกับ ADSL Router นั่นแหละครับ
จากภาพ Rate คือ 2048kbps/512kbps หรือเท่ากับ ดาวโหลด 2Mb และ อัพโหลด 512k หรือ 0.5Mb k คือ ติดไว้ก่อน เอ้ย k = kilo 1024Kilo = 1Mega (หรือวิธีคิดง่ายๆ 1,000 = 1 ปัดเศษๆลงเลยครับถ้าเอาแบบไม่เป๊ะ)
และถ้าหากเราเช็คจากเครื่องคอมโดยเปิด Browser แล้วเข้า speedtest เช็คบนเว็บ ถ้าดาวโหลดได้เกินกว่า 2Mb ก็ผีหลอกแล้วครับ และถ้าได้ต่ำกว่า 2Mb ก็ให้ตรวจสอบจากภายใน
จากภาพ ถ้าเราขอบริการ 7 Mb แล้วดูในส่วนของ DSL Rate ถ้าต่ำกว่า 7,084 kbps นิดหน่อยก็ไม่มีปัญหา ถ้าต่ำจนผิดปกติ ล่ะก็ มีปัญหาตั้งแต่ที่สาย DSL หรือสายโทรศัพท์ขึ้นไปภายนอกแล้วล่ะครับ ให้เปลี่ยนสายโทรศัพท์ หรือถ้ายังไม่หายให้ติดต่อผู้ให้บริการของเราให้ส่งทีมมาตรวจสอบสายสัญญาณ
 จะได้ได้รับบริการที่เราเสียเงินไปอย่างเต็มที่ จากประสบการณ์จริงที่ไปตามบ้าน พบเยอะเหมือนกัน ขอ 10Mb ได้ 5Mb ได้ 1Mb ยังมีเลย เล่นอยู่ 2-3 เดือนกว่าจะรู้เนื่องจากเขาไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าคนใช้เยอะ

คงช่วยให้ประหยัดเวลาและพิจารณาปัญหาได้แม่นยำขึ้นมาไม่มากก็น้อยนะครับ และหวังว่าคงเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หากขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยและแนะนำด้วยนะครับ ^^